วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

วิธีการใช้งาน Microsoft Excel

        Microsoft Excel เป็นโปรแกรมประเภท Spreadsheet ซึ่งออกแบบมาสำหรับบันทึกวิเคราะห์ และ
แสดงข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในรูปแบบของแผนภาพ หรือรายงาน ซึ่งโปรแกรม
Microsoft Excel ยังมีความสามารถในการจัดรูปแบบเอกสารได้สวยงาม และง่ายดายไม่แพ้โปรแกรมอื่นๆ เลยทีเดียว
การบันทึกข้อมูลลงในโปรแกรม Microsoft Excel จะบันทึกลงในช่องที่เรียกว่า Cell โดยแต่ละเซลจะ
อยู่ตารางซึ่งประกอบไปด้วย Row (แถว) และ Column (คอลัมน์) ซึ่งตารางในแต่ละตารางเราเรียกว่า
Worksheet และ Worksheet หลายๆ Worksheet รวมกันเราจะเรียกว่า Workbook ซึ่งก็คือไฟล์ของโปรแกรม
Microsoft Excel นั่นเอง
สิ่งใหม่ใน Microsoft Excel 2007
ส่วนติดต่อผู้ใช้
ถูกออกแบบให้ค้นหา และเข้าถึงคำสั่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยถูกออกแบบในรูปของ
แท็บซึ่งเป็นที่รวบรวมกลุ่มของคำสั่งไว้เป็นหมวดหมู่ เครื่องมือต่างๆ จะมีคำอธิบายที่ชัดเจนยิ่งขึ้นซึ่งในบาง
เครื่องมือจะแสดงในรูปแบบของรูปภาพ ซึ่งต่างจากเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งาน
เครื่องมือได้อย่างถูกต้อง
จำนวนแถว (Row) และคอลัมน์ (Column) ที่เพิ่มขึ้น
จำนวนแถวถูกเพิ่มขึ้นถึง 1,048,576 แถว และคอลัมน์ถูกเพิ่มขึ้นถึง 16,384 คอลัมน์ หรือเริ่มต้นจาก
คอลัมน์ ที่ A ไปสิ้นสุดที่คอลัมน์ ที่ XFD
Live Preview
สามารถแสดงผลลัพธ์คุณสมบัติที่เลือกให้กับวัตถุได้ทันทีเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการออกแบบGallery
ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการปรับแต่งรูปแบบของข้อมูล หรือเซลเพื่อให้เราสามารถปรับแต่งใน       รูปแบบที่ซับซ้อนได้ง่ายยิ่งขึ้นเพียงขั้นตอนเดียว รวมถึงสามารถออกแบบรูปแบบของ Gallery ได้เองเพื่อให้
ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
จำนวนอาร์กิวเม้นต์ (Argument) ในฟังก์ชั่น (Function)
จำนวนอาร์กิวเม้นต์ที่ฟังก์ชั่นสามารถนำไปใช้ได้ถูกเพิ่มจากเดิมที่ใช้ได้สูงสุด 30 ค่า เป็น 256 ค่า ซึ่ง
สามารถสนับสนุนการทำงานของฟังก์ชั่นที่ซับซ้อนได้เป็นอย่างดี
จำนวนผลคำนวณอัตโนมัติที่แสดงบน Status Bar
จำนวนผลคำนวณอัตโนมัติที่แสดงบน Status Bar นั้นสามารถแสดงพร้อมกันได้ถึง 6 ค่า คือ
Average, Count, Numerical Count, Min, Max และ Sum ซึ่งอำนวยความสะดวกกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ที่
แสดงได้เพียง 1 ค่าเท่านั้นTrendline
Trendline หรือเส้นแสดงแนวโน้มของข้อมูล มีไว้เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของแผนภาพว่า ใน
อนาคตข้อมูลจะเป็นไปในทิศทางใดเพื่อช่วยให้เราวางแผนงานในอนาคตได้ง่ายยิ่งขึ้น
ส่วนประกอบที่สำคัญของโปรแกรม Microsoft Excel 2007
􀂃 ปุ่ม Microsoft Office : ที่รวมคำสั่งที่ใช้จัดการไฟล์ทั่วไป เช่น New, Open, Save และ Print เป็นต้น
􀂃 Quick Access Toolbar : ที่รวมคำสั่งที่ใช้งานบ่อยๆ
􀂃 Ribbon : แท็บของกลุ่มคำสั่งที่แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งถูกออกแบบมาให้แทนที่ Menu และ
Toolbar เดิมเพื่อให้สามารถค้นหาคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว
􀂃 Title Bar : แสดงชื่อ Workbook ที่ใช้งานอยู่
􀂃 Contextual : แท็บพิเศษที่จะแสดงเมื่อเราใส่ออบเจ็คลงใน Worksheet เช่น การใส่ WordArt
􀂃 Formula Bar : สำหรับจัดการสูตรหรือ จัดการข้อมูลภายในเซลที่เลือก
􀂃 Column : ช่องข้อมูลที่อยู่ในแนวตั้ง มีจำนวน 16,384 คอลัมน์หรือเริ่มต้นจาก A ถึง XFD
􀂃 Row : ช่องข้อมูลที่อยู่ในแนวนอน มีจำนวน 1,048,576 แถว
􀂃 Sheet Tab : แสดงชื่อของ Worksheet
􀂃 Name Box : แสดงชื่อเซลที่เลือก และสามารถตั้งชื่อเซลที่เลือกได้ รวมถึงสามารถใช้เพื่อเลื่อนไปยัง
เซลที่กำหนดได้
􀂃 Status Bar : แสดงสถานะต่างๆ ของโปรแกรม
􀂃 Worksheet : แผ่นงานที่ใช้บันทึกข้อมูล มีลักษณะเป็นตาราง แต่ละตารางเรียกว่าเซลโดยเราสามารถ
เพิ่มจำนวน Worksheet ได้
􀂃 View Shortcuts : มุมมองของเอกสาร
􀂃 Zoom และ Zoom Slider : เครื่องมือที่ใช้สำหรับย่อหรือขยายหน้าจอ
ปุ่ม
Quick Access Toolbar
ส่วนที่รวบรวมคำสั่งที่ใช้งานบ่อยๆ ไว้ด้วยกัน ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะเพิ่มคำสั่งใดบ้าง
อยู่ใน Quick Access Toolbar ได้โดย
􀂃 เพิ่มจาก Customize Quick Access Toolbar -> More Commands
􀂃 เพิ่มจาก Ribbon โดย คลิกขวาที่คำสั่งที่ต้องการบน Ribbon และเลือก Add to Quick Access
Toolbar
เรายังสามารถนำคำสั่งออกจาก Quick Access Toolbar ได้โดย
􀂃 ลบจาก Customize Quick Access Toolbar -> More Commands
􀂃 ลบจาก Quick Access Toolbar โดยคลิกขวาในคำสั่งที่ต้องการลบออก และเลือก Remove from
Quick Access Toolbar
Ribbon
        ดังที่เรากล่าวในข้างต้นว่า Ribbon คือ แท็บของกลุ่มคำสั่งที่แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งถูกออกแบบมา
ให้แทนที่ Menu และ Toolbar เดิมเพื่อให้สามารถค้นหาคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว โดยจะแบ่งเป็น แท็บ Home,
Page, Layout, Formulas, Data, Review และ View เป็นต้น ซึ่งแต่ละแท็บจะเก็บคำสั่งที่ใช้งานในลักษณะ
เดียวกัน หรือใกล้เคียงกันไว้ด้วยกัน
เปิดไดอะล็อกบ็อกซ์
เครื่องมือในแต่ละแท็บนั้น มีจำนวนมากซึ่ง Microsoft Excel 2007 จะแสดงไว้เฉพาะที่ใช้งานบ่อยๆ
เท่านั้น หากต้องการเข้าถึงคำสั่งอื่นๆ ภายในแท็บนั้น ให้คลิกที่ปุ่ม เพื่อเปิดไดอะล็อกบ็อกซ์ในแท็บนั้น
ออกมาซ่อน/แสดงเครื่องมือในแท็บ Ribbonเราสามารถซ่อนเครื่องมือในแท็บ Ribbon เพื่อเพิ่มพื้นที่การทำงานบนหน้าจอให้มากขึ้นได้โดยดับเบิลคลิกที่แท็บใดๆ บน Ribbon กลุ่มเครื่องมือเหล่านั้นจะถูกซ่อนเหลือเพียงชื่อแท็บ Ribbon ทันที หากเราต้องการให้หน้าจอกลับแสดงเครื่องมือในแท็บ Ribbon เพียงดับเบิลคลิกที่แท็บใดๆ บน Ribbon อีกครั้ง เครื่องมือที่ถูกซ่อนอยู่จะถูกแสดงออกมาเช่นเดิม
ใช้แป้นพิมพ์เพื่อเลือกคำสั่งบน Ribbonเราสามารถใช้แป้นพิมพ์เพื่อเลือกคำสั่งบน Ribbon ได้โดยการกดปุ่ม Alt ค้างไว้ หลังจากนั้น Ribbonจะแสดงปุ่มคำสั่งหลัก และคำสั่งย่อยให้เราเลือกใช้งาน ตามลำดับ
การสร้าง Workbook
ปกติแล้วเมื่อเราเปิด Microsoft Excel 2007 ขึ้นมาจะมี Workbook จำนวน 1 Workbook ซึ่งภายใน
นั้นจะมี Worksheet จำนวน 3 Worksheet โดยเราสามารถเพิ่ม หรือลบจำนวน Worksheet ได้ในภายหลัง ซึ่ง
รูปแบบของ Workbook ที่เราต้องการสร้างนั้นมีหลายรูปแบบ ดังนี้
􀂃 Blank and recent : เป็นรูปแบบของเอกสารว่างเปล่า ที่เราต้องจัดรูปแบบเอกสารใหม่เองทั้งหมด
􀂃 Install Template : เป็นเอกสารถูกเตรียมเนื้อหา และรูปแบบที่จำเป็นให้ไว้บางส่วน เช่น loan
amortization schedule






วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

สูตรกาแฟสดร้อน –เย็น



สูตรกาแฟสดร้อน เย็น

สูตรกาแฟสดร้อน เย็น สำหรับร้านกาแฟสดเล็กๆ ที่เน้นคำว่ากาแฟสด” ให้กับลูกค้าที่รักการดื่มกาแฟสด ก่อนอื่นต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่า การชงกาแฟสดมีหลากหลายวิธี ตามแต่ความชอบและอุปกรณ์ที่คุณสามารถจัดหาได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือกาแฟสดคั่ว ที่มีการคั่วหลากหลายระดับ กาแฟหลายสายพันธุ์ กาแฟสด 2สายพันธุ์เด่นๆที่คงพอจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ที่ปลูกในประเทศไทยเรา คือ “อราบิก้า” และ “โรบัสต้า” ต่างก็มีสายพันธุ์ย่อยอีกหลายชนิด (สามารถหาข้อมูลได้จากอินเตอร์เน็ตหรือจากเว็บบล็อกของผู้เขียนได้นะคะ ส่วนการเลือกกาแฟคั่วให้เหมาะกับการนำมาชงในแต่ละสูตร เพราะกาแฟร้อนเย็นมีความแตกต่างของสัดส่วนความหวานลื่นๆต่างกันไป
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการชงกาแฟแบบอร่อยในบ้านหรือจะนำไปเปิดร้านเล็กๆหน้าบ้าน แบบตั้งคีออสพอหลบแดด-ฝนได้ ก็ไม่ผิดกติกาสภากาแฟนะ
กาแฟคั่ว/นมสด100%/น้ำตาลทรายหรือทำเป็นน้ำเชื่อม/นมข้นหวาน/นมข้นชนิดไม่หวาน/แก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มตามความชอบ
กาแฟกาแฟร้อนขนาด 8-10 ออนซ์/แก้วกาแฟ 3-4 ออนซ์ /แก้วตวงขนาด 2 ออนซ์ หรือจะมีตัวเลขความจุที่ 45 cc หรือ ml/ ช้อนคนกาแฟ
 ก่อนอื่นสิ่งที่สำคัญสำหรับนำไปเป็นส่วนผสมหลัก คือ กาแฟเอสเปรสโซ่นั่นเอง


สูตรเอสเปรสโซ่ Espresso Recipes
• กาแฟคั่วกลาง Medium Roasted 10 กรัม/g, หรือ ประมาณ 1 ½ ช้อนตวงกาแฟบด หรือ
• กาแฟคั่วเข้ม Espresso Roasted   8 กรัม/g.

วิธีชง
นำกาแฟมาบดแล้วชงด้วยเครื่องชงกาแฟ กลั่นให้ได้น้ำกาแฟประมาณ 25 - 30 ซีซี กาแฟเอสเปรสโซ่คือกาแฟที่จะนำไปเป็นส่วนผสมหลักในกาแฟสูตรร้อน-เย็นอื่นๆ ที่จะนำมาให้ลองชงกันดูนะคะ
หลังจากชงกาแฟเอสเปรสโซ่ได้แล้ว ก็มาลองนำสูตรที่แนะนำและถึงแม้จะเป็นสูตรพื้นๆ แต่ก็น่าจะทำให้มือใหม่ๆได้ลองชงลองชิมนะ
  *tip น้ำหนักกาแฟคั่วจะมีน้ำหนัก-เบา ที่แตกต่างกันตามลักษณะการคั่ว ดังนั้นการที่จะนำเอามาตรฐานน้ำหนักของกาแฟคั่วตัวใดตัวหนึ่งมาบอกเป็นตัวเลขกำหนดว่า 8-10 กรัมนั้นจะเป็นค่าเฉลี่ย ของน้ำหนักกาแฟคั่ว เมื่อนำมาบดจะให้ปริมาณผงกาแฟต่างกันไปด้วย จึงควรขอความรู้จากผู้สอนชงกาแฟ หรือหากจะเรียนรู้ด้วยตนเองก้ไม่ยากเพียงแค่ใช้การตวงกาแฟที่บด ด้วยการตักใส่ในตะแกรงที่มีตั้งแต่ 1-2 หรือจะมีคนแนะนำให้เลือก แบบ 3ชอท มาใช้ซึ่งอันหลังเพิ่งจะได้ยินจากคนขายเครื่องชงที่แนะนำ แต่หากรู้จักสังเกต ตระแกรง 1ชอทจะไม่ลึกเท่ากับ 2ขอท เมื่อซื้อเครื่องชงมาจะมีมาให้ 2ขนาดคือ ตระแกรงแบบ 1และ2ชอท คือ 1ชอทสำหรับคนชอบกาแฟไม่เข้มเกินไปการตวงด้วยการตักกาแฟที่บดแล้วพอดีตระแกรงแล้ว กดด้วยเทมเปอร์ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นเหมือนกันสำหรับการใช้เตรียมกาแฟก่อนชง ดังนั้นเมื่อจะบดกาแฟ จะได้คำตอบว่าเครื่องรุ่นที่คุณใช้ควรบดกาแฟละเอียด-หยาบอย่างไรและจำเป็นหรือไม่ที่ต้องกดด้วยตัวกดกาแฟ(เทมเปอร์)เพื่อช่วยให้เกิดแรงกดเมื่อนำไปชง การไหลของกาแฟจะได้น้ำกาแฟที่เข้มขึ้น ก็น่าจะอยู่ที่การทำความเข้าใจและรู้พื้นฐานของเครื่องชง
กาแฟคาปูชิโน่ Cappuccino Toffee Nut
กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ช็อท  Espresso     1 Shot [Arabica 100%Medium Roasted]
น้ำเชื่อมกลิ่นท็อฟฟี่นัท 10 ซีซี Toffee Nut Syrup 10 ml.
ฟองนม  Milk Frothing
(จากการนำนมสดมาเป่าด้วยเครื่องชงกาแฟ ที่จะมีท่อสำหรับเป่าลมร้อนได้ หรือจะอุ่นนมให้ร้อนแล้วนำมาตีด้วยเครื่อง ตีฟองนมมือ) สามารถชมได้จากคลิปวีดีโอ
วิธีการชงกาแฟ
นำแก้วกาแฟขนาด 8 ออนซ์ นำมาอุ่นด้วยการใส่น้ำร้อนแล้วทิ้งไว้ ระหว่างที่เตรียมกาแฟมาชงด้วยเครื่องชง เมื่อนำใส่ในหัวกรุ๊ปให้เทน้ำร้อนที่ใส่ในถ้วยกาแฟที่เตรียมไว้ เติมน้ำเชื่อมกลิ่นลงไปนำแก้วกาแฟไปรอง เมื่อได้กาแฟแล้วนำ ฟองนมมาตักลงไปบนกาแฟ เวลาตักฟองให้พูนช้อน ให้ได้ฟองฟูบนน้ำกาแฟ แล้วเติมน้ำนมลงไปเล็กน้อย จะโรยผงอบเชยป่นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอมและให้ได้อารมณ์ของกาแฟคาปูชิโน่ ที่ต้องมีกลิ่นหอมอ่อนๆของ เครื่องเทศอย่างอบเชยป่น
** หลายคนบอกอบเฃยบนฟองนมทำให้รู้สึกเหมือนดื่มกาแฟรสพะโล้ จริงๆแล้วอบเชยนั่นมีมากมายหลายชนิด ให้กลิ่นต่างไปตามแหล่งปลูก ถ้าจะให้คิดก้คงไม่ต่างจากกาแฟสด ที่ปลูกกันหลายประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศไทย ก็ยังเถียงกันเรื่องกลิ่น เรื่องรสชาติว่าอย่างโน้นอย่างนี้ อบเชยที่เป็นเครื่องเทศที่นำมาปรุงแต่งอาหารหรือนำมาใช้ในเครื่องดื่มเอง ก็ต้องเลือกชนิดและควรรู้ว่าแต่ละที่มามันให้รสกลิ่นอย่างไร แต่หากไม่ไปกังวลหรือจริงจังจนทำให้กาแฟหนึ่งถ้วยเป็นเรื่องใหญ่ อบเชยป่นที่ขายในซุปเปอรืในขวดหลากยี่ห้อ สามารถนำมาโรยได้ ก้ให้ดมกลิ่นก่อนที่ซื้อมาใช้เท่านั่นเอง


กาแฟม็อคค่าวนิลาครีม Mocha Vanilla Whipped Cream



กาแฟเอสเปรสโซ่ 2 ชอท  Espresso 2 Shot
โกโก้หรือช็อคโกเลตซอส 10 ซีซี Cocoa or chocolate Sauce 10 m
น้ำเชื่อมกลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา Vanilla syrup 1 tea spoon
วนิลาวิปปิ้งครีม Vanilla Whipped Cream

วิธีชง
เติมซอสโกโก้และน้ำเชื่อมกลิ่นลงไปในแก้ว แล้วชงกาแฟให้ได้ปริมาณ 50 ซีซี แล้วบีบวิปปิ้งครีมลงไปบนกาแฟ เวลาดื่มจะได้ความหอมของกาแฟและรสหวานมันของกาแฟที่ผสมไปด้วยวิปปิ้งที่ละลาย ความชอบขึ้นอยู่กับผู้ดื่ม 

กาแฟคาปูชิโน่เย็น Ice Cappuccino Coffee


 ส่วนผสม
 กาแฟเอสเปรสโซ่   2   ชอท   Espresso      2 Shot
 น้ำเชื่อม         3/4 ออนซ์  Syrup         3/4 oz
 นมข้นชนิดจืด     3/4 ออนซ์  Daily Creamer 3/4 oz
 ฟองนม/น้ำแข็งบด

วิธีชง
 ผสมกาแฟเอสเปรสโซ่ น้ำเชื่อม นมข้นชนิดจืด คนให้เข้ากัน เทลงในแก้วที่ใส่น้ำแข็งบด แต่งด้วยฟองนม โรยด้วยอบเชยป่นเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
 ใช้แก้วขนาด 16-18 ออนซ์

**กาแฟสูตรนี้มักจะมีการนำมาวิพากวิจารณ์กันถึงรสชาติและการชง อย่างโน้นอย่างนี้ ผู้เขียนก็พัฒนาตามสูตรร้อนที่มีอยู่แล้วนำมาปรับเปลี่ยนเล็กน้อยส่วนกาแฟอีกสูตรคือลาเต้เย็น ที่มีปัญหาสำหรับคนชงกาแฟ ที่มักจะเจอเซี่ยนชั้นเทพบ้างละ รู้เฟื่องเรื่องกาแฟบ้างละ จริงๆแล้วผู้เขียนไม่ได้ไปคิดอะไรมากมายกับคำพูดต่างๆ แต่ก็นำมาปรับและแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มาเรียนชงเครื่องดื่มกับผู้เขียน เพราะทุกคนมีความชอบ ความพอใจในรสชาตกาแฟต่างกันไป แต่หากเราทำส่วนผสมให้ได้ดีรสชาตออกมาดี พอที่จะทำให้ลูกค้าพอใจ รับได้กับราคาที่สมเหตุสมผลราคาและบริการไปในทิศทางเดียวกัน ขนาดของร้านที่ดูธรรมดา ตกแต่งพอประมาณใช่ว่าจะบริการไม่ดีเท่าร้านใหญ่แบรนด์ดังๆไม่ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าที่จะให้คำตอบเราได้ทำหน้าที่ของเราในการชงกาแฟที่เน้นตามลูกค้าบ้างโดยต้องมีเทคนิคและความชำนาญในการแก้ไขปัญหาเพาะหน้า และการมีความรู้ความสามารถเฉพาะตัวในการทำให้ลูกพอใจ กาแฟจะชงแบบไหนก็อย่าให้ไกลจากต้นฉบับไปมากนัก อย่างน้อยการเคารพต้นแบบเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรจะทำ เพราะเราเอาสิ่งที่มาก่อนมาใช้ประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่เรา การให้กลับด้วยการอ้างอิงถึงในทางที่ดี เป็นสิ่งที่งดงามเสมอสำหรับการได้อยู่ร่วมกัน ส่วนใครอยากมีสูตรใหม่ๆก็ไม่ผิดกติกามารยาทอีกเช่นเคย


วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

ถ้านักเรียนจะให้ของขวัญเพื่อนจะใช้โปรแกรมใดในการทำชิ้นงาน


   
      ถ้านักเรียนจะให้ของขวัญเพื่อนจะใช้โปรแกรมใดในการทำชิ้นงาน

ทำภาพสไลด์ให้เพื่อน

จากโปรแกรม   Photo Story 3 

เหตุผล    เป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายใส่คำพูดได้  แสดงความรู้สึก  และใส่รูปภาพน่ารักเพิ่มเติมได้                 แล้วอีกอย่างการที่เรานำรูปของเพื่อนมาทำเป็นภาพสไลด์มันอาจมีคุณค่าทางใจมาก   เก็บไว้เป็นที่ระลึก  เก็บภาพวันที่แสนสนุกและประทับใจไว้ดูยามคิดถึงกันเป็นภาพที่รวบรวมร้อยยิ้มของกันและกัน

วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วัดพระธาตุหลวงพ่อทันใจ กมลวรรณ กาแก้ว



วัดพระบรมธาตุบ้านตาก
      
หลวงพ่อทันใจ" วัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก ที่สาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธา                                          มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อทันใจ ว่าขอสิ่งใด ล้วนแต่ได้สมดังใจปรารถนาทุกประการย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2519 นายทิพย์ หิงคานนท์ อดีตข้าราชการครู หลังเกษียณอายุราชการ ได้ล้มป่วยลงอาการหนักมาโดยตลอด จึงได้มาสักการะพระบรมธาตุ และอธิษฐานต่อองค์หลวงพ่อทันใจ ขอให้หายป่วย มีสุขภาพดีแข็งแรง จะกลับมาทอดกฐินที่วัดแห่งนี้ 15 ปีปรากฏว่า    เป็นจริงดั่งคำอธิษฐาน อาการเจ็บป่วยของนายทิพย์ทุเลาลงตามลำดับ และในปี  พ.ศ.2520    จึงมาทอดกฐินพร้อมคณะญาติชาวจังหวัดชลบุรี ต่อเนื่องจนครบ 15 ปี   และต่อมาอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งนายทิพย์ได้ถึงแก่กรรมในวัย 89 ปี แต่ความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทันใจยังคงแพร่ขยายไปทั่วสารทิศ เช่น นักฟุตบอลทีมชาติไทย เคยยกทีมมาไหว้แก้บนเมื่อหลายปีก่อน,          บรรดานักการเมืองระดับชาติ,  นักธุรกิจใหญ่ต่างเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทันใจ เดินทางมาแก้บนตามที่ได้อธิษฐานไว้หลวงพ่อทันใจ ไม่เพียงแต่ดลบันดาล ในเรื่องหน้าที่การงาน ธุรกิจ การค้าขาย สำเร็จไปด้วยดีเท่านั้น ยังรวมไปในเรื่องของความรัก คู่ครอง และขอ บุตร-ธิดา
ส่วนการเสี่ยงทายความสำเร็จ มีช้างเสี่ยงทาย ใช้นิ้วก้อยยกสำหรับผู้ชาย และนิ้วนางสำหรับผู้หญิง ทำนายดวงชะตา หากสำเร็จครั้งแรกขอให้ยกขึ้นทันที และอธิษฐานยกใหม่อีกครั้ง ขอให้ยกไม่ขึ้น หากคำทำนายดีสำเร็จดังหมาย ซึ่งก็สมปรารถนาดังใจทุกประการ  โดยเครื่องบูชาหลวงพ่อทันใจ จะเป็นกล้วย ส้ม ผลไม้ตามฤดูกาล ส่วนของไหว้ประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิด ห้ามนำเข้ามาถวายและห้ามนำเข้าเขตพัทธสีมาอย่างเด็ดขาด ยกเว้น ไข่ต้มสุกอย่างเดียว  วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ยังปรากฏในศิลาจารึของพ่อขุนรามคำแหง   ที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะศึกเจ้าเมืองฉอด บนเนินเขาใกล้กับพระบรมธาตุ ประมาณ 500 เมตรตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก ซึ่งเขียนเป็นภาษาเหนือ กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดสัตว์ล่องมาตามลำน้ำปิง พระองค์ได้เสด็จมายังดอยมะหิยังกะ ในเขตตัวเมืองตาก ตรัสกับพระอานนท์ว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่สำราญ ร่มรื่น หากเราตถาคตปรินิพพานแล้วให้นำอัฐิและเกศากลับมายังดอยมะหิยังกะ ภายหลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน พระอรหันต์ทั้ง 4 ได้นำพระบรมสาริกธาตุของพระองค์ พร้อมด้วยเกศาอีก 4 องค์ มาประดิษฐานยังดอยมะหิยังกะ แล้วก่อเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมแล้ว นำพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในพระเจดีย์ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ต่อมา พระครูพิทักษ์พระบรมธาตุ (ทองอยู่) ได้ไปนมัสการพระธาตุชเวดากอง ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ท่านจึงได้จำมาก่อสร้างองค์พระเจดีย์เหมือนเจดีย์ชเวดากองล้อมคลุมองค์เก่าไว้ ปิดทองสวยงาม มีการจัดพิธีสมโภชและสักการะพระธาตุในวันขึ้น 14และ 15 ค่ำ เดือน 7 ของทุกปี 



     








  

วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คุณธรรมจริยธรรมในการใช้อินเตอร์เน็ต

คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต

ได้กล่าวถึงบัญญัติสิบประการของการใช้คอมพิวเตอร์ไว้ดังนี้
1. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่น
2. ไม่รบกวนจนงานคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
3. ไม่แอบดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
4. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อลักขโมย
5. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเป็นพยานเท็จ
6. ไม่ใช้หรือทำสำเนาซอฟต์แวร์ที่ตนไม่ได้ซื้อสิทธิ์
7. ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจหน้าที่
8. ไม่ฉวยเอาทรัพย์ทางปัญญาของผู้อื่นมาเป็นของตน
9. คิดถึงผลต่อเนื่องทางสังคมของโปรแกรมที่เขียน
10. ใช้คอมพิวเตอร์ในทางที่แสดงถึงความใคร่ครวญและเคารพ
การ ทำงานอินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ จะทำให้สังคมอินเทอร์เน็ตอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์จะทำให้สังคมอิน เทอร์เน็ต น่าใช้และเป็นประโยชน์ กิจกรรมบางอย่างที่ไม่ควรปฏิบัติจะต้องหลีกเลี่ยง ในการส่งกระจายข่าวลือไปเป็นจำนวนมาบนเครือข่าย การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แบบลูกโซ่ เป็นต้น ดังนั้นนักเรียนควรปฏิบัติตามกฎ กติกา มารยาท หรือ จรรยาบรรณของการรวบรวมเว็บไซด์ต่าง ๆ เอาไว้ เราเพียงแต่ทราบหัวข้อที่ต้องการแล้วเข้าใช้อินเทอร์เน็ตในด้านต่อไปนี้คือ

· การใช้บริการพูดคุยกันแบบออนไลน์ (Chat )
· การใช้กระดานข่าวหรือเว็บบอร์ด
· การใช้บริการพูดคุยกันแบบออนไลน์ (Chat)

บน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีบริการโต้ตอบแบบออนไลน์ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Chat ดังนั้นในการสนทนาจะต้องมีมารยาท อีกอย่างหนึ่งว่า Chat ดังนั้นในการสนทนาจะต้องมีมารยาทสำคัญดังนี้

· ควรเรียกสนทนาจากผู้ที่เรารู้จักและต้องการสนทนาด้วย หรือมีเรื่องสำคัญที่จะติดต่อด้วย
· ควรใช้วาจาสุภาพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
· ก่อนเรียกสนทนา ควรตรวจสอบสถานะการใช้งานของคู่สนทนาที่ต้องการเรียก เพราะการเรียกแต่ละครั้งจะมีข้อความไปปรากฎบนจอภาพ ของฝ่ายที่ถูกเรียกซึ่งจะทำให้สร้างปัญหาในการทำงานได้
·การใช้บริการกระดานข่าวหรือเว็บบอร์ด

บน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีบริการกระดานข่าวหรือเว็บบอร์ดให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น หรือข้อมูลข่าวสารถึงกัน ดังนั้นในการใช้ บริการควรเคารพกฎ กติกา มารยาทดังนี้

· ในการเขียนพาดพิงถึงผู้อื่น ให้ระมัดระวังการระเมิดหรือสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น
· ไม่ควรนำข้อความที่ผู้อื่นเขียน ไปกระจายต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเข้าของเรื่อง
· ไม่ควรใช้ข้อความขบขัน คำเฉพาะ คำกำกวม และคำหยาบคายในการเขียนข่าว
· ในการเขียนคำถามลงในกลุ่มข่าวจะต้องเขียนให้ตรงกับกลุ่มและเมื่อจะตอบต้องตอบให้ตรงประเด็น


 จริยธรรมในการใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
1. ไม่โฆษณาหรือเสนอขายสินค้า
2. รู้ตัวว่ากำลังกล่าวอะไร
3. ถ้าไม่เห็นด้วยกับหลักพื้นฐานของรายชื่อกลุ่มที่ตนเป็นสมาชิก ก็ควรออกจากกลุ่มไม่ควรโต้แย้ง
4. คิดก่อนเขียน
5. อย่าใช้อารมณ์
6. พยายามอ่านคำถามที่ถามบรอย (FAQ) ก่อนเสมอ
7. ไม่ส่งข่าวสารที่กล่าวร้าย หลอกลวง หยาบคาย ข่มขู่
8. ไม่ส่งต่อจดหมายลูกโซ่ หรือเมล์ขยะ
9. ถ้าสงสัยไม่ทำดีกว่า
10. รู้ไว้ด้วยว่าสำหรับผู้เขียน คือ บันทึกฉันท์เพื่อน แต่สำหรับผู้รับ คือ ข้อความที่จารึกไว้บนศิลาจารึก
11. ให้ความระมัดระวังกับคำเสียดสี และอารมณ์ขัน
12. อ่านข้อความในอีเมล์ ให้ละเอียดก่อนส่ง ความประณีตและตัวสะกด การันต์ เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง
13. ดูรายชื่อผู้รับให้ดีว่า เขาคือคนที่เราตั้งใจจะส่งไปถึง

อินเตอร์เน็ต

 อินเทอร์เน็ต ประวัติอินเทอร์เน็ต ประโยชน์และการใช้งานอินเทอร์เน็ต

   อินเทอร์เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยจะเป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องจากทั่วโลกมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ทั่วโลก ในการติดต่อกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องมีการระบุว่า ส่งมาจากไหน ส่งไปให้ใครซึ่งต้องมีการระบุ ชื่อเครื่อง (คล้ายกับเลขที่บ้าน) ในอินเทอร์เน็ตใช้ข้อตกลงในการติดต่อที่เรียกว่า TCP/IP (ข้อตกลงที่ทำให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันได้) ซึ่งจะใช้สิ่งที่เรียกค่า ไอพี-แอดเดรส” (IP-Address) ในการระบุชื่อเครื่องจะไม่มีเบอร์ที่ซํ้ากันได้

   ประวัติของอินเทอร์เน็ต
  อินเทอร์เน็ตกำเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2512 โดยองค์กรทางทหาร ของสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า ยู.เอส.ดีเฟนซ์ ดีพาร์ทเมนท์ ( U.S. Defence Department ) เป็นผู้คิดค้นระบบขึ้นมา มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้มีระบบเครือข่ายที่ไม่มีวันตายแม้จะมีสงคราม ระบบการสื่อสารถูกทำลาย หรือตัดขาด แต่ระบบเครือข่ายแบบนี้ยังทำงานได้ซึ่งระบบดังกล่าวจะใช้วิธีการส่งข้อมูลในรูปของคลื่นไมโครเวฟ ฝ่ายวิจัยขององค์กรจึงได้จัดตั้งระบบเน็ตเวริ์กขึ้นมา เรียกว่า ARPAnet ย่อมาจากคำว่า Advance Research Project Agency net ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมในหมู่ของหน่วยงานทหาร องค์กร       รัฐบาล และสถาบันการศึกษาต่างๆ เป็นอย่างมาก


           การเชื่อมต่อในภาพแรกแบบเดิม ถ้าระบบเครือข่ายถูกตัดขาด ระบบก็จะเสียหายและทำให้การเชื่อมต่อขาดออกจากกัน แต่ในเครือข่ายแบบใหม่ แม้ว่าระบบเครือข่ายหนึ่งถูกตัดขาด เครือข่ายก็ยังดำเนินไปได้ไม่เสียหาย เพราะโดยตัวระบบก็หาช่องทางอื่นเชื่อมโยงกันจนได้ในระยะแรก เมื่อ ARPAnet ประสบความสำเร็จ ก็มีองค์กรมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้ความสนใจเข้ามาร่วมในโครงข่ายมากขึ้น โดยเน้นการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ( Electronic Mail ) ระหว่างกันเป็นหลัก ต่อมาก็ได้ขยายการบริการไปถึงการส่งแฟ้มข้อมูลข่าวสารและส่งข่าวสารความรู้ทั่วไป แต่ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิชย์ เน้นการให้บริการด้านวิชาการเป็นหลัก

                ปี พ.ศ. 2523 คนทั่วไปเริ่มสนใจอินเทอร์เน็ตมากขึ้น มีการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในเชิงพาณิชย์ มีการทางธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต บริษัท ห้างร้านต่างๆ ก็เข้าร่วมเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น